ระบบการศึกษาของฟินแลนด์ถูกขนานนามว่าดีที่สุดในโลกเพราะได้ผลิตนักเรียนที่ฉลาดและมีพัฒนาการที่ดี สิ่งที่น่าสนใจก็คือความเรียบง่ายของระบบการศึกษาในฟินแลนด์ ที่นี่ไม่เก็บค่าเล่าเรียนและมีอาหารกลางวันฟรี ฟินแลนด์มีการทดสอบนักเรียนจนถึงอายุ 16 ปีเท่านั้น ไม่มีการบ้านและการส่งเด็กเข้าเรียนก่อนอายุ 7 ขวบเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
“ต้องมีวิสัยทัศน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ”
.
การจัดการศึกษาที่ดีเพื่อมวลชนนั้นควรเป็นอย่างไร ฟินแลนด์แน่วแน่ที่จะสร้างโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ดีเพื่อเด็กทุกคน ซึ่งได้รับการอุดหนุดจากรัฐและบริหารโดยท้องถิ่น ฝ่ายการเมืองและฝ่ายที่ดูแลด้านบริการสาธารณะในฟินแลนด์ต่างมีเป้าหมายทางการศึกษาร่วมกัน คือ ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นลำดับแรก
มหาวิทยาลัย Bath ทำการศึกษาทดลองโปรแกรมออกกำลังกายสำหรับเด็กอายุ 14-18 ปี ที่ออกกำลังกายทุกสัปดาห์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ใน 40 โรงเรียน
Baroness Sue Campbell หัวหน้ากีฬาฟุตบอลหญิงที่ FA และครูโรงเรียนหญิงล้วนในแมนเชสเตอร์ อธิบายถึงแนวโน้มของการเลิกเล่นกีฬาในเด็กนักเรียนหญิง ที่จากเดิมนักเรียนจะเลิกเล่นกีฬาเมื่ออายุ 14-15 ปี เนื่องจากไม่ต้องการให้ตัวเองมีภาพลักษณ์ถึกหรือสมบุกสมบัน
นักเรียนในจังหวัด Gaziantep ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนซีเรียนแค่ประมาณ 25 กิโลเมตร ได้รับรางวัลนักกรีฑากว่า 100 เหรียญในการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาค
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ฉันอยู่ปีสองที่ The City College of New York เพื่อนร่วมชั้นบอกกับฉันว่ามีวิชาเรียน “ฟรี” ชื่อ “คิดอย่างหมากรุก” ได้ 3 หน่วยกิต ในฐานะที่ฉันเป็นนักเรียนต่างชาติต้องเสียค่าเล่าเรียนเกือบ 4 เท่าของนักเรียนชาวท้องถิ่น ความคิดที่จะประหยัดเงินเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ฉันตัดสินใจลงเรียน ในวิชาเรียนนี้มีผู้เชี่ยวชาญหมากรุกระดับโลกเป็นครูผู้สอน ที่น่าตื่นเต้นยิ่งไปกว่านั้นคือครูผู้สอนเป็นชาวแอฟริกันอเมริกันคนแรกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญหมากรุก ชื่อของเขาคือ Maurice Ashley ครู Maurice เป็นมิตรและฉลาด เขาเป็นศิษย์เก่าที่กลับมาสอนที่ที่เขาเคยเรียน ครูบอกเราว่าวิชานี้เขาเคยสอนมาแล้วทั่วนิวยอร์กตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 5 – 18 ปี ครูไม่ได้สอนให้นักเรียนรู้วิธีการเล่นหมากรุก แต่เขาสอนวิธีการประยุกต์ใช้กลยุทธ์ในหมากรุกไปสู่การดำเนินชีวิต
