อาจารย์ประวัติศาสตร์ Vijay Kumar Ballani และเพื่อนร่วมงานของเขาจะไปที่หมู่บ้านชนบทใน Jaisalmer ปีละครั้ง เพื่อขอให้ผู้ปกครองส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนรัฐใกล้ทะเลทราย Thar ที่มีเพียงตึกอิฐ ไม่มีห้องน้ำและโต๊ะทำงาน โดยใช้คำพูดเชิญชวนแบบเดิมๆ ว่า “เรียนฟรี อาหารกลางวันฟรี หนังสือฟรีและผ้าอนามัยก็ฟรี”
ที่นี่มีครู 12 คน ดูแลนักเรียน 260 คนตั้ง ชั้นป.1 ถึงมัธยมปลาย “ลูกๆ ของคุณจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหากได้เรียน ไม่ได้หลอกคุณนะ” Ballani กล่าว ความพยายามของ Ballani ส่วนมากได้ผลกับเด็กผู้ชาย เพราะบ่อยครั้งที่ครอบครัวต้องการให้เด็กผู้หญิงอยู่บ้านทำงานและช่วยเลี้ยงน้อง “พวกเขาจนมาก พ่อแม่ต้องการให้พวกเขาทำงาน” Ballani กล่าว ประมาณ 65% ของนักเรียนในโรงเรียนรัฐบาลมีผลลัพธ์ทางการเรียนที่ล้มเหลว ตามรายงานจากธนาคารโลกเมื่อไม่นานมานี้ มีนักเรียนเกรด 5 ในอินเดียเพียง 3 ใน 4 เท่านั้นที่อ่านหนังสือของเกรด 2 ออก
ตลอดระยะเวลา 70 ปี ของการพัฒนาการศึกษาของอินเดียหลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษเป็นไปอย่างเชื่อช้า แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้มีการริเริ่มโครงการจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าเรียนของเด็กผู้หญิงมากขึ้น องค์กรสาธารณะอย่าง Pratham ดำเนินภารกิจผลักดันเด็กที่เข้าโรงเรียนและพัฒนาระบบโรงเรียนในอินเดียให้มีคุณภาพ ในขณะที่องค์กร Round Table ของอินเดีย ได้เดินหน้าโครงการ “one classroom a day” มากว่า 10 ปี สร้างโรงเรียนในชุมชนที่อยู่ห่างไกล จัดค่ายเรียนรู้คอมพิวเตอร์เพื่อนักเรียนหญิง และผลักดันเด็กหญิงให้เข้าโรงเรียนมากขึ้น รัฐบาลอินเดียเองก็ให้การสนับสนุนสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น จักรยานสำหรับขี่ไปโรงเรียน และกำลังมุ่งสู่นโยบายการฝึกอบรมครูและปรับสภาพโรงเรียน Ballani กล่าวว่า “ถ้าเรามีครูเพิ่มมากขึ้นและร่วมมือกับพ่อแม่ในการพัฒนาการศึกษา เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น”