ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2552 ผู้สมัครเป็นประธานชั้นเรียนปีแรกทั้ง 9 คน ของมหาวิทยาลัย Princeton รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา เป็นคนผิวขาวทั้งหมด ข้อเท็จจริงดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวล
กลุ่มคณาจารย์และผู้บริหารของ Princeton เริ่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศในมหาวิทยาลัย พวกเขาพบว่าในช่วง 29 ปีที่ผ่านมา Princeton มีผู้หญิงที่เป็นประธานสภาเกียรติยศเพียง 6 คน เป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของวิทยาลัย 9 คน และเป็นประธานสภานักเรียน 4 คน มหาวิทยาลัยจึงจัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเป็นผู้นำของนักศึกษาหญิงในระดับปริญญาตรี และใช้เวลา 1 ปีในการเก็บข้อมูลประสบการณ์ของนักศึกษาหญิงระดับปริญญาตรีเกี่ยวกับช่องว่างทางเพศกับความเป็นผู้นำใน Princeton จนได้ข้อเสนอแนะว่านักศึกษาหญิงจำนวนมากต้องการที่ปรึกษา
Nannerl Keohane ประธานคณะกรรมการมหาวิทยาลัย Princeton กล่าวว่า การให้คำปรึกษาเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้หญิง เพราะจากการศึกษาประสบการณ์ของนักศึกษาหญิงใน Princeton พบว่า ผู้หญิงที่สามารถเข้ามาอยู่ในกลุ่มผู้นำส่วนมากได้รับอิทธิพลจากผู้ให้คำปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ เช่นเดียวกับนักศึกษาชายเพียงแต่ว่าเครือข่ายหรือคนที่จะให้คำปรึกษาสำหรับผู้หญิงมีน้อยกว่ามาก มหาวิทยาลัยจึงเสริมโปรแกรมที่ช่วยให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการสำหรับนักศึกษาหญิงโดยเฉพาะขึ้น