.
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ระบบการศึกษาสิงคโปร์กลายเป็นที่ 1 ของโลกได้ใน 5 ทศวรรษ แม้ที่ผ่านมาการพยายามถ่ายทอดวิชาการควบคู่กับคุณธรรมเคยล้มเหลว พ.ศ.2508 โรงเรียนในสิงคโปร์กลายเป็นพื้นที่สำหรับชนชั้นสูง เด็กในครอบครัวด้อยโอกาสต้องเรียนนอกโรงเรียน การแบ่งแยกทางสังคมขยายตัวต่อเนื่อง
.
สิงคโปร์จึงเปลี่ยนระบบใหม่ ผ่านการลดค่านิยมการสอบวัดระดับ หันไปให้คุณค่ากับการพัฒนาเด็กแบบองค์รวม โดยใช้การบันทึกพฤติกรรมและสะท้อนที่ช่วยให้พ่อแม่ได้สำรวจพัฒนาการของลูกได้ เน้นระบบการศึกษาที่สร้างอารมณ์บวก เพิ่มความยืดหยุ่น สร้างสติ และส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาพดี วิธีการนี้ได้ผลดีมากในการสร้างพลเมืองช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนสำคัญที่สุดของหลักสูตรชั้นประถมคือการให้ความสำคัญกับเวลาของครอบครัวและบทบาทของพ่อแม่ที่ปลูกฝังคุณค่าที่เหมาะสมให้ลูก
.
ในระดับมัธยมมีโปรแกรม “ค่านิยมในการปฏิบัติงาน” ที่สร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและการมีส่วนร่วมในชุมชนผ่านกิจกรรม เช่น ให้นักเรียนทำงานบริการผู้สูงอายุ ติดต่อแรงงานข้ามชาติ หรืออ่านหนังสือให้เด็กในศูนย์ดูแลเด็กเล็ก นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการยังพยายามกระจายความเท่าเทียมโดยเปิดรับสมัครนักเรียนในท้องถิ่นให้เข้าเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ
.
ซึ่งจะคัดเลือกจากความสนใจของนักเรียน หมุนเวียนผู้บริหารที่มีประสบการณ์ไปยังโรงเรียนที่ต้องพัฒนา ให้ความสำคัญกับนักเรียนที่อ่อนวิชาการด้วยการฝึกอบรมอาชีวและทักษะอื่นๆ ตลอดจนทำแนะแนวการศึกษาและอาชีพในโรงเรียนตั้งแต่ประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักเรียนรู้จักตนเอง มีวิสัยทัศน์ และทักษะชีวิต