[เรียนโลก] กิจการเพื่อสังคมสนับสนุนนวัตกรรมการศึกษา
หลายๆคนคงคุ้นชื่อ “กิจการเพื่อสังคม” หรือ “ธุรกิจเพื่อสังคม” กันมาบ้างแล้วนะครับแต่สำหรับใครที่ไม่เคยได้ยินผมจะเล่าให้ฟังง่ายๆ ว่า กิจการเหล่านี้เริ่มต้นขึ้นเพื่อ “แก้ไขปัญหาสังคม” วันนี้จึงยกตัวอย่าง 3 กิจการเพื่อสังคมที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการศึกษา
‘application’
ปัจจุบันมีกิจการเพื่อสังคมในสหราชอาณาจักรมากมายที่กลายมาเป็นนวัตกรรมพัฒนาการศึกษาในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่าง “Excite-Ed” ของจูเลีย เบตสัน หรือ “Night Zookeeper” โดยจ็อชชัว เดวิดสัน ที่เป็น application เกมเสริมสร้างการเรียนรู้ด้านดิจิตอลและทักษะสังคม ตลอดจนส่งเสริมจินตนาการ ยกระดับความรู้และความเชื่อมั่นในตนเองให้กับเด็ก ไปจนถึงนวัตกรรมแบบดั้งเดิมอย่าง “BEEs” โปรแกรมฝึกอบรมครูกลางแจ้งผ่านกิจกรรมผักสวนครัวและการศึกษาสภาพอากาศของพีท คาร์ธี
“Enabling Enterprise” หลักสูตรที่พานักเรียนไปเยี่ยมชมธุรกิจในท้องถิ่นเพื่อนำตัวอย่างกลับมาพัฒนาธุรกิจขนาดเล็กของตัวเองของทอม ราเวนสคอฟท์ ความร่วมมือระหว่างโรงเรียนและผู้ประกอบการทางสังคมนี้ ช่วยให้การใช้จ่ายงบประมาณของโรงเรียนเป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น ในขณะที่นวัตกรรมจากผู้ประกอบการสังคมก็ช่วยสนับสนุนให้ระบบการศึกษาในโรงเรียนเต็มไปด้วยการเรียนรู้เชิงประสบการณ์และแรงบันดาลใจ
Room to Read ห้องสมุดไม่แสวงหากำไร
จอห์น วู้ด ก่อตั้ง “Room to Read” หลังจากได้มีโอกาสไปเห็นห้องสมุดที่ไม่มีสมุด ไม่มีโต๊ะ และไม่มีเก้าอี้ อันเนื่องมาจากความยากจนของโรงเรียนในเนปาลเมื่อหลาย 10 ปีก่อน เขาเริ่มจากการรวบรวมหนังสือบริจาคเพื่อนำไปมอบให้โรงเรียนแห่งนั้น แววตาของเด็กนักเรียนที่ได้สัมผัสหนังสือครั้งแรก ทำให้เขาตัดสินใจออกจากงาน เพื่อมาขับเคลื่อนโครงการรับบริจาคหนังสือและส่งต่อให้เครือข่ายห้องสมุดกว่า 11,000 แห่งทั่วโลก
ตลอดจนสนับสนุนทุนการศึกษาและการฝึกอบรมทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนในประเทศที่ขาดแคลนอย่างเนปาล บังคลาเทศ กัมพูชา อินเดีย ลาว แอฟริกาใต้ ศรีลังกา เวียดนาม และแซมเบีย ปัจจุบัน Room to Read ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและอิทธิพลทางการศึกษาให้เด็กกว่า 5 ล้านคน
“New Teacher Center ศูนย์ครูรุ่นใหม่”
เอเลน มอร์ ก่อตั้ง “New Teacher Center” ในสหรัฐอเมริกาเพื่อแก้ไขปัญหาความท้อแท้และการลาออกจากอาชีพของครูรุ่นใหม่ ซึ่งเริ่มทำงานกับครูกลุ่มนี้ใน 34 รัฐ และจัดอบรมผ่านระบบออนไลน์ (e-Mentoring) โดยพัฒนานักการศึกษากว่า 6,300 คน เพื่อให้คำปรึกษากับครูใหม่จนสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแรงบันดาลใจให้แก่นักเรียนได้มากขึ้น ศูนย์ครูรุ่นใหม่ส่งผลกระทบไปถึงนโยบายระดับชาติ ทำให้ปัจจุบันมี 11 รัฐในประเทศที่มีกฎหมายและมาตรฐานสำหรับการปฐมนิเทศครูใหม่ เพื่อพัฒนาครูและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประสบความสำเร็จของครูและนักเรียน