[เรียนโลก] การแบ่งแยกเพศในโลกของความเป็นจริง


.
2 ทศวรรษที่ผ่านมา “พลังของผู้หญิง” เป็นสิ่งที่คนนิยมใช้อธิบายถึงความสำเร็จของสาวๆ ในวัฒนธรรมอเมริกัน ในปีพ.ศ. 2550 The Nation รายงานว่าเด็กหญิงสามารถทำทุกอย่างได้และดีกว่า
.
บทความจาก New York Times ในปีเดียวกันได้กล่าวถึง “ผู้หญิงมหัศจรรย์” ที่ประสบความสำเร็จ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งผู้หญิงเหล่านี้ได้โตขึ้นมาพร้อมกับการเรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่เด็กผู้ชายทำได้ อย่างไรก็ตามมีจากการสัมภาษณ์เพื่อการวิจัยในปี พ.ศ.2553-2556
.
ที่โรงเรียนมัธยมของแคนาดาพบว่า เด็กผู้ชายมีพฤติกรรม “ล้อเล่น” กับเด็กผู้หญิงเพราะไม่ชอบสิ่งที่ได้ยินเกี่ยวกับพลังของผู้หญิงโดยคำพูดที่ว่า “ไปทำแซนวิชให้ฉันสิ” (Go make me a sandwich)
.
เด็กผู้หญิงหลายคนจากโรงเรียนระดับกลางและระดับสูงต่างรายงานประสบการณ์ที่คล้ายกัน สาวน้อยคนหนึ่งชื่อ Rory อายุ 13 ปี บอกว่า “ตอนที่ฉันกำลังพยายามเล่นบาสเกตบอลและไปลงชื่อ ทุกคนพูดว่า ‘กลับเข้าไปในครัว ไป!'”
.
ครั้งแรก Rory ตอบโต้ด้วยความโกรธ แต่หลังจากนั้นเธอก็ยอมรับมัน Shauna Pomerantz และ Rebecca Raby อาจารย์ประจำภาควิชาเด็กและเยาวชนแห่งมหาวิทยาลัย Brock ในเมือง St. Catharines ประเทศแคนาดา กล่าวว่า
.
“หญิงสาวได้รับการบอกกล่าวว่าพวกเธอมีความเท่าเทียม แต่ความเป็นจริงก็คือพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับความไม่เสมอภาคทางเพศ”
.
ปีที่แล้วมีการวิจัยของมหาวิทยาลัย Illinois มหาวิทยาลัย New York และPrinceton พบว่าเด็กหญิงอายุ 6 ปีเชื่อว่า “ความฉลาด” ถูกสงวนไว้สำหรับผู้ชายเท่านั้น
.
ผลการวิจัยเหล่านี้สนับสนุนความจริงที่ว่าปัจจุบันผู้หญิงไม่เพียงแต่ได้รับเงินค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชายสำหรับงานประเภทเดียวกัน พวกเขายังมีโอกาสอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารน้อยกว่าและมีบทบาทน้อยมากในการเลือกตั้ง
.
Pomerantz และ Raby พบว่ากลุ่มเพื่อนและครอบครัวมีอิทธิพลในการช่วยให้ผู้หญิงสามารถรับมือกับความเครียด ความกดดัน ความสงสัยหรือความวิตกกังวลเหล่านี้ได้ หรือแม้แต่องค์กรต่างๆ อย่าง At the Well, Girls In Stem, Girls Who Code, Black Girls Code หรือ Leadership Girl และสโมสรในโรงเรียนมัธยมก็มีบทบาทในการสร้างความเชื่อมั่นและอนุญาตให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการแข่งขันอย่างเป็นมิตรได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงความเชื่อนี้ในตัวผู้หญิงเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป