Noura Al Jizawi เกิดและโตใน Homs ประเทศซีเรีย เธออายุ 29 ปี เคยเป็นนักศึกษา นักกิจกรรม นักโทษ ผู้นำการต่อต้านซีเรีย รอดจากสถานการณ์อันตรายมากว่า 10 ครั้ง และถูกเนรเทศ ตอนนี้เธอกำลังตังครรภ์ 8 เดือนและกำลังศึกษาต่อปริญญาโทที่ Munk School of Global Affairs ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต Noura ตระหนักถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนครั้งแรกเมื่อ “ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันโกรธเพราะไม่สามารถเลือกสมุดของตัวเองได้ สมุดที่เราใช้ได้มีเพียงเล่มเดียวที่มีภาพของอัสซาดอยู่” Noura กล่าว
บุคคลที่หายไป
“นักเรียนหลายคนที่อายุมากกว่าฉัน 2 ปี พูดถึงพ่อที่หายไปของพวกเขา ฉันรู้เพียงแค่มีคนที่หายไปในซีเรีย” ขณะที่ Noura เติบโตขึ้นเธอได้เห็นมารดาของผู้หายตัวไปรวมกลุ่มสนับสนุนซึ่งกันและกัน “คนเหล่านั้นถูกจับกุมโดยอัสซาด ในช่วงปี 1980 และบางคนยังคงหายตัวไปจนถึงปัจจุบัน ไม่มีศพ ไม่มีอะไรเลย มีเพียงความเงียบ”
การเคลื่อนไหวและการจับกุม
Noura ลุกขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองเมื่อเธอศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย Homs เธอทำงานในฐานะบล็อกเกอร์ที่เผยแพร่นวนิยายเชิงเปรียบเทียบ สร้างจินตนาการ และเปิดเผยความคิดของตนเอง จนนำไปสู่การถูกจำกุมถึง 2 ครั้ง แต่เธอก็ยังคงดำเนินงานที่เป็นอันตรายนี้ โดยเผยแพร่บทความต่อต้านระบอบการปกครอง และแนวคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตย ตลอดจนการประท้วงอย่างสันติ “เราไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีการปฏิวัติอย่างแท้จริงในชีวิตของเรา” Noura กล่าว ในเดือนธันวาคม 2010 Noura ได้ติดต่อกับนักเคลื่อนไหวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เธอกลายเป็นผู้สนับสนุนและจัดงานประท้วง
สื่อสังคม
นั่นนำไปสู่การตอบสนองจากรัฐบาลซีเรีย เพื่อนของเธอถูกสังหารและถูกคุมขังเป็นจำนวนมาก “เอาจริงๆ เราไม่ตกใจเลย เพราะเรารู้ดีว่าระบอบการปกครองนี้จะไม่อนุญาตให้เราเรียกร้องสิทธิของพวกเรา” Noura กล่าว “ถ้าย้อนกลับไปปี 70 หรือ 80 เมื่อมีการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ในซีเรีย โดยไม่มีอินเทอร์เน็ตก็หมดช่องทางการสื่อสาร แต่เราคิดว่าตอนนี้เรามีช่องทางสื่อที่จะปกป้องเรา … แต่มันก็ไม่ได้ปกป้องเรา” ในเดือนพฤษภาคมปี 2012 Noura ถูกบังคับให้ขึ้นรถบัสที่มีชายติดอาวุธเต็มคันรถ “มันไม่ใช่การจับกุม มันคือการลักพาตัว” เธอกล่าว
ถูกทรมานในคุก
Noura ปรากฏตัวอีกครั้งใน 7 เดือนต่อมา ระหว่างนั้นเธอคุมขังในเรือนจำที่มีชื่อมากที่สุดในซีเรีย เธอถูกทรมานด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้าและการทุบตี แต่สำหรับเธอประสบการณ์ที่แย่ที่สุดคือได้ยินเสียงของเพื่อนนักโทษถูกทรมาน “ฉันไม่ห่วงตัวเอง ฉันห่วงเรื่องการปฏิวัติ ฉันห่วงคนที่ยังพยายามปฏิวัติอยู่ข้างนอก” Noura กล่าว เธอได้รับการปล่อยตัวปลายปี 2012 ในขณะที่น้องสาวของเธอ Alaa ถูกทรมานอย่างหนักและถูกปล่อยตัวในสภาพอันเลวร้าน ครอบครัวของ Noura ตัดสินใจออกจากซีเรียและหนีไปตุรกีเพื่อรับการรักษาพยาบาลเร่งด่วน “ Alaa เป็นเหตุผลเดียวที่ฉันจะออกจากซีเรีย” Noura กล่าว 4 ปีในตุรกี Noura ได้เข้าร่วมกลุ่มต่อต้านกองกำลังฝ่ายค้านของซีเรีย (SNC) และกลายเป็นรองประธานาในปี 2014 รวมทั้งยังถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมการเจรจาในเจนีวา
นักวิชาการที่อยู่ในความเสี่ยง
Noura ลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลในปี 2016 แต่ยังคงทำงานเพื่อองค์กรพัฒนาเอกชนที่เธอสร้างขึ้นซึ่งมีชื่อว่า Start Point ซึ่งให้การสนับสนุนสตรีชาวซีเรียที่ได้รับความทรมานและความรุนแรงทางเพศระหว่างการคุมขัง Noura เดินทางมาแคนาดาในฐานะนักศึกษาที่ได้รับทุนจากโครงการ “นักวิชาการที่อยู่ในความเสี่ยง” ของมหาวิทยาลัยโตรอนโต เธอมองว่าปริญญาโทเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะช่วยให้เธอทำงานต่อเพื่อนำประชาธิปไตยไปสู่ซีเรีย “ฉันรู้สึกว่าการเป็นแม่ทำให้ฉันใกล้กับอนาคตมากขึ้น ลูกของฉันคืออนาคต และบางทีเขาอาจจะไม่ต้องมีชีวิตอยู่ในช่วงที่ยากลำบากเหมือนเรา”
ที่มา : BBC