3) มีความคล่องตัว มีความเป็นธรรมชาติเรียบง่าย ( Spontaneity, Simplicity, Naturalness)
บุคคลมีความคล่องตัวทั้งในพฤติกรรมและในชีวิตภายในที่เป็นตัวของตัวเองทั้งความคิดและแรงกระตุ้นต่าง ๆ พฤติกรรมของพวกเขาจึงมีความเป็นธรรมชาติและเรียบง่ายและปราศจากความเครียดในผลกระทบ รวมถึงการไม่ได้ถูกขัดขวางโดยธรรมเนียมประเพณี สิ่งหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับคุณลักษณะเช่นนี้คือจริยธรรมของพวกเขายังสามารถมีขึ้นได้เองมากกว่าที่จะมาจากธรรมเนียมประเพณี อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ควรตระหนักไว้นั่นคือสิ่งที่เขาได้แสดงออกนั้นอาจไม่ได้รับการยอมรับจากผู้อื่นได้
4) ใช้ปัญหาเป็นศูนย์กลาง (Problem Centering)
บุคคลจะเน้นไปที่ปัญหาหรือใช้ปัญหาเป็นศูนย์กลาง (problem center) โดยจะไม่ได้ยึดตนเองเป็นหลัก (ego center) พวกเขานับว่าเป็นบุคคลที่มีการกำหนดภารกิจต่าง ๆในชีวิต มีงานที่ต้องทำให้สมบูรณ์ หรือปัญหาที่ต้องใช้พลังของพวกเขาในการจัดการ สิ่งนี้จึงไม่จำเป็นว่าพวกเขาจะเลือกหรือชอบในงานของเขาเพราะพวกเขารู้สึกว่างานเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องรับผิดชอบ เป็นหน้าที่หรือเป็นสิ่งมี่ต้องทำมากกว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการทำ
5) มีความสันโดษมีความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่อย่างสงบเรียบร้อย (The Quality of Detachment : The Need for Privacy)
บุคคลสามารถอยู่ได้โดยลำพัง มีความเป็นส่วนตัวโดยไม่รู้สึกอ้างว้าง และยังสามารถรักษาเกียรติหรือความภูมิใจไว้ได้ นอกจากนี้ในความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น พวกเขาอาจถูกมองว่าเป็นคนที่ไว้ตัว ทำตัวห่างเหิน หยิ่ง หัวสูง และเย็นชา ทำให้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักที่จะได้รับการยอมรับจากผู้อื่น แต่พวกเขาก็มีความเป็นอิสระทั้งการตัดสินใจด้วยตนเอง การดูแลตนเอง รับผิดชอบในตนเองมากกว่าที่จะพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
6) เป็นตัวของตัวเองมีอิสระจากวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม (Autonomy: Independence of Culture and Environment)
หนึ่งในคุณลักษณะของผู้ที่มีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงคือการเป็นผู้ที่มีความเป็นอิสระจากสภาพแวดล้อมทั้งทางสังคมและกายภาพ เนื่องจากความพึงพอใจหลักของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่โลกของความเป็นจริง บุคคลอื่นหรือวัฒนธรรมซึ่งเป็นลักษณะของแรงจูงใจภายนอก แต่อยู่ที่เรื่องของการพัฒนาตนเองและการพัฒนาภายในมากกว่า ปัจจัยที่สร้างความพึงพอใจจึงมากจากภายในบุคคลมากกว่าสังคม ความเป็นอิสระนี้ได้สร้างความมั่นคงในสภาวะที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆเช่นการถูกทอดทิ้ง ความคับข้องใจ พวกเขาสามารถอยู่ได้ด้วยความสงบในขณะที่ผู้อื่นอาจจะแก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นบุคคลที่สามารถยับยั้งตนเอง (self-contained)
7) มีความรู้สึกชื่นชมยินดีอยู่เสมอ (Continued Freshness of Appreciation)
บุคคลจะมีความสามารถในการชื่นชมหรือมองสิ่งต่างด้วยความสุขสดชื่น สวยงามเช่น เห็นความสวยงามของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า เห็นความน่ารัก ของดอกไม้ที่กำลังแย้มบาน รวมทั้งแม้ในวันหรือช่วงเวลาของการทำงานพวกเขาก็สามารถมองสิ่งเหล่านั้นอย่างตื่นเต้นเร้าใจและมีความหมายตลอดเวลา
8) ความรู้สึกล้ำลึกกับธรรมชาติ (The Mystic Experience ; Peak of Experience)
ประสบการณ์ต่อสิ่งที่ลึกล้ำทำให้บุคคลนำตนออกนอกตนเองทำให้เกิดความรู้สึกต่อบางสิ่งมากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิต ธรรมชาติหรือพระเจ้า ประสบการณ์นี้ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งของความไม่สิ้นสุด และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกับพวกเขาทำให้หลายคนมุ่งค้นหาประสบการณ์เหล่านั้น ซึ่งอาจอยู่ในรูปต่างๆตามความเหมาะสมอาทิ การเขียนบทกวี ดนตรี หลักปรัชญาและศาสนา
9) สนใจสังคม (Social Interest)
บุคคลที่มีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง เขาจะมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ (sympathy) มีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ (affection for mankind) มีความเป็นญาติมิตร เขาจะมีความสามารถที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างดี มีความปรารถนาที่จะช่วย เหลือผู้อื่น และมีความรักในเพื่อนมนุษย์ มี ทัศนคติต่อตัวเองว่าเสมือนเป็นพี่ที่จะให้ความอบอุ่นและคุ้มครองน้องๆ ซึ่งจะทำให้เขาสามารถให้อภัยได้ง่ายกว่า
10) สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal Relations)
บุคคลที่มีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นที่ลึกซึ้ง โดยเขาจะมีความสามารถในการผสมผสานสิ่งที่แตกต่างให้เข้ากัน (fusion) สามารถแสวงหาเอกลักษณ์ที่แท้จริง (perfect identification) มีความรักที่ยิ่งใหญ่ (greater love) และสามารถกำจัดขอบเขตอัตตาของตนเอง (obliteration of the ego boundaries) อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างลึกซึ้งและสนิทสนมเป็นเพื่อน โดยจะมีเพื่อนสนิทเพียง 2 – 3 คน เขาไม่ต้องการเพื่อนมากแต่ต้องการเพื่อนแท้ เขาจะอ่อนโยนกับเด็กและมักจะทำให้เด็กเกิดความไว้วางใจได้ง่าย เขาเป็นคน ที่มีความเมตตากรุณา และจะพูดความจริงหรือแสดงความรู้สึกไม่พอใจอย่างเปิดเผยกับคนที่หลอกลวงหรือไม่จริงใจกับเขา
11) มีความเป็นประชาธิปไตย (Democratic Character Structure)
เป็นผู้ที่มีคุณลักษณะที่เป็นมิตร ไม่สนใจในเรื่องชนชั้น การศึกษา ความเชื่อทางการเมือง เชื้อชาติหรือสีผิว เป็นผู้ที่มีความรู้สึกถึงความเป็นประชาธิปไตยอย่างลึกซึ้ง มีความเคารพต่อผู้อื่น เขาจะเรียนรู้จากบุคคลใดก็ได้ที่มีความสามารถที่จะสอนบางสิ่งบางอย่างให้เขาได้ โดยถือว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกัน และเขาจะเลือกเพื่อนที่มีคุณลักษณะ ความสามารถมากกว่าต้นกำเนิด เชื้อชาติ ครอบครัว อายุ ชื่อเสียงหรืออำนาจ
12) รู้ความแตกต่างระหว่างวิธีการและเป้าประสงค์ (Discrimination between Means and Ends, Between good and evil)
เขาจะยึดมั่นในมาตรฐานศีลธรรมจรรยาของเขาอย่างมั่นคง จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ทำสิ่งที่ผิด และไม่มีความรู้สึกสับสนหรือความคิดขัดแย้งว่าสิ่งใดถูก หรือผิดสิ่งใดดีหรือเลว เขาจะรู้ความแตกต่างระหว่างวิธีการและเป้าประสงค์ได้อย่างชัดเจน โดยให้ความสำคัญกับเป้าประสงค์มากกว่าวิธีการ และเขาสามารถเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อ กิจวัตรประจำวันเดิมๆ เป็นเกมส์ที่มีความสนุกสนานได้
13) มีอารมณ์ขันอย่างมีสันติ (Sense of Philosophical Humor)
เขาจะมีอารมณ์ขันอย่างมีการคิดพิจารณา (consider humor) ซึ่งเขาจะไม่คิดถึงความสนุกสนานเหมือนกับบุคคลทั่วไป เช่น เขาจะไม่สร้างความขบขันด้วยการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด( hostile humor) ขบขันในสิ่งที่เป็นข้อบกพร่องหรือเป็นปมด้อยของผู้อื่น (superiority humor ) authority-rebellion humor หรือตลกลามก (smutty joke)) ซึ่งอารมณ์ของเขาถือว่าเป็นอารมณ์ขันอย่างสันติหรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็นอารมณ์ขันเกี่ยวกับความเป็นจริง (the humor of the real ) เป็นความขบขันในความเป็นมนุษย์ เช่น ขบขันความโง่เขลาของเขาเอง ขบขันที่ลืมที่ตั้งของตัวเขาเองในจักรวาล หรือขบขันที่พยายามจะยิ่งใหญ่ ทั้งที่ความจริงเราเล็กนิดเดียว ซึ่งเป็นการขบขันตัวของเขาเอง ซึ่งอารมณ์ขันในที่นี้ต้องไม่ใช้อารมณ์ขันที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดหรือกลายเป็นตัวตลก ส่วนการแสดงอารมณ์ขันนั้นจะใช้การยิ้ม มากกว่าหัวเราะ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการวางแผน
14) มีความสามารถในการสร้างสรรค์ (Creativeness)
ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เป็นคุณลักษณะสากลของผู้ที่มีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง โดยเขาจะแสดงให้เห็นถึงลักษณะพิเศษของ ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มที่เป็นต้นความคิด ไม่ซ้ำแบบใคร หรือการคิดค้นประดิษฐ์ ซึ่งมีความแตกต่างจากความสามารถในการสร้างสรรค์เฉพาะอย่างเช่น ความคิดสร้างสรรค์ของ Mozart อีกทั้งความคิดสร้างสรรค์จะปรากฏในประเด็นต่างๆ ที่ไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปที่แสดงออกในการเขียนหนังสือ แต่งเพลง หรือสิ่งของทางศิลปะ แต่จะเป็นประเภทความคิดสร้างสรรค์พิเศษ ที่แสดงออกในเวลาที่เขาสัมผัสกับโลก หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งเขามีขอบเขต การยับยั้ง หรือการปรับตัวทางวัฒนธรรมค่อยข้างน้อย หรืออีกนัยหนึ่งเขามีความเป็นมนุษย์ และเป็นธรรมชาติอย่างมากนั่นเอง
15) การต่อต้านวัฒนธรรมภายนอกที่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมภายในตน (Resistance to Enculturation : The Transcendence of any particular culture)
บุคคลที่มีความเข้าใจตนเองอย่างแท้จริงเขาอาจจะดูเหมือนปรับตัวได้ไม่ดี เพราะเขาจะจัดการกับวัฒนธรรมในหนทางที่หลากหลาย ซึ่งเขาจะมีความเป็นกลางภายในจากวัฒนธรรม (inner detachment from culture) โดยอาจจะมีความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่ตรงกับวัฒนธรรมหรือวิถีประชา แต่เขาจะเลือกส่วนที่ดี และปฏิเสธส่วนที่เขาคิดว่าไม่ดีด้วยการวิเคราะห์ ชั่งน้ำหนัก ทดสอบและนำมาตัดสินใจ ทำงานเกี่ยวกับการปรับปรุงวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ไม่พอใจอย่างมากต่อความไม่ยุติธรรม สามารถเชื่อมโยงความเป็นตัวของตัวเองภายใน (inner autonomy) กับการยอมรับจากภายนอกได้ (outer acceptance) ได้อย่างสมดุล จึงทำให้เขามีความเป็นตัวของตัวเอง และยอมรับสิ่งแวดล้อมภายนอก
เมื่อพิจารณาความต้องการของมนุษย์ตามแนวคิดของ Maslow กับจิตวิญญาณ นั้น กล่าวได้ว่าความต้องการระดับสูง (B value) และ ความรู้สึกล้ำลึกกับธรรมชาติ (The Mystic Experience ; Peak of Experience) สามารถแสดงถึงทิศทางที่สำคัญของพฤติกรรมทางจิตวิญญาณได้ โดยผู้ที่มีความต้องการในระดับสูง (B value) มีแนวโน้มจะเป็นผู้ที่เข้าใจตนเองอย่างแท้จริง (Self-actualization) (Sisk & Torrance 2001: 27)