คุณค่าของความเป็นมนุษย์ ตอนที่ 17

การเคารพสิทธิดังกล่าวพบว่ามีกระทำในระดับระบบ เช่น

…เราจัดระบบให้ผู้ต้องขังได้รับการตรวจ ให้ผู้ต้องขังได้กินยาที่ถูกต้อง ระบบที่มันเละเนี่ย เพราะมันไม่เป็นระบบ ก็น่าจะจัดตั้งแต่ระบบเรื่องการตรวจ ระบบเรื่องการจ่ายยา ระบบเรื่องการพาผู้ต้องขังออกตรวจข้างนอก ระบบตั้งแต่เรื่องบัตร เรื่องความเป็นอยู่ข้างใน เราเอาเรื่องตรวจก่อน เพราะงานสถานพยาบาลมันเกี่ยวข้อง กระทบกับงานฝ่ายปกครอง กับบุคลากรของฝ่ายปกครองด้วย…ผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยแต่ละวันต้องได้รับการตรวจ ได้รับการกินยา เมื่อเขาได้กินยา ก็จะได้ทุเลา จะได้ไม่หนัก จะได้ไม่ต้องมานอนที่สถานพยาบาล กินยาแล้วก็กลับได้ เดิมทีที่มันไม่เป็นระบบ เพราะว่า[คนจ่ายยา]เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ใครก็ได้ที่อยู่เวรกะที่ 2 กะที่ 1 และพอถึงเวลา 7 โมงปั๊บ ผู้ต้องขังก็จะมาเข้าแถวเป็นร้อย เพื่อที่จะมาขอยา และจะดูว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ใจดี ก็จะมาขอ คนไหนน่ากลัวก็จะไม่ขอ และเวลามาขอก็จะบอกว่า หนูขอยาแก้อักเสบ คือจะบอกชื่อยามาเลย มันมีปัญหามาก สะเปะสะปะมาก เจ้าหน้าที่จ่ายยาก็ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานมาเลย มันถึงทำให้โรคแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้น และไม่ได้เป็นระบบเลย ก็สรุปว่าเราจะจัดระบบใหม่ (ลปรร.เจ้าหน้าที่เรือนจำ ครั้งที่ 3)

นอกจากนี้ การเคารพสิทธิพื้นฐานยังมีในรูปของการให้ดูแลระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งมีความซับซ้อน มีรายละเอียดแตกต่างกันเป็นรายกรณี ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่างแรกเป็นการดูแลทางสุขภาพกาย

…บังเอิญเราไปเข้าเวรนะคะ และได้ทราบจากเพื่อนๆ ผู้ต้องหาว่า มีผู้ต้องหาคนหนึ่งเขาป่วยและดูเหมือนจะติดเชื้อด้วยแต่เขาไม่กล้าจะคุยกับเจ้าหน้าที่…ตอนเช้าเราก็ลงมาจากเข้าเวรก็ปล่อยขังแล้วให้ลูกน้องไปเรียกมา เขาก็เล่าว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร แต่แรงแทบจะไม่มีแล้ว นั่งก็จะล้มอยู่แล้วมันจะไม่ดีอยู่แล้ว…ก็เลยพามาสถานพยาบาล แต่ก็เจอพยาบาลที่ดุ ประมาณว่านี่เธอจะมารู้ดีกว่าฉันได้อย่างไร แต่เราเห็นเด็กว่าจะไม่ไหวแล้ว เลยคุยกับผู้คุมแดนว่าเขาคงไม่ไหวแล้ว เพราะเขาเหงื่อตกตลอดแต่เขาพยายามกลบเกลื่อนตัวเองนั่งคุยกับเรา คือพอเขาเดินจากเราไปนิดเดียวเขาก็ล้มเลยนะคะ…จากนั้นหนูก็เลยไปคุยกับน้องว่าเดี๋ยวต้องคุยกับสถานพยาบาล…ทางสถานพยาบาลจะคิดว่าน้องเขาไม่ได้ป่วยจริงนะคะ หนูก็เลยให้ทางรองฯ โทรเข้าไปคุยก่อนในเบื้องต้นนะคะ ทางสถานพยาบาลก็บอกให้พาเขามา หนูก็เลยคุมเขาไปซึ่งอยู่ที่แดนอื่นซึ่งไม่ใช่แดนหญิง ก็เลยไปเจอกับอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่พี่ที่ดุๆ ก็เลยบอกกับเขาว่าช่วยดูหน่อยเถอะคะพี่ เด็กมันปิดบังพฤติกรรมมัน และที่สำคัญมันไม่ยอมให้เจาะเลือดด้วย พี่เขาก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นจะยิ่งแย่นะถ้าไม่ยอมให้เจาะเลือด เพราะการเจาะเลือดจะต้องได้รับการยินยอมก่อนนะ ก็เลยคุยกับเขาและพาเขากลับมาก่อนนะคะ ก็บอกกับเขาว่าถ้าอยู่กับเราก็ขอให้ร่วมมือ หากไม่ร่วมมือกับเราหากเป็นอะไรไปก็อย่าหาว่าเราปล่อยให้โดดเดี่ยวนะ เรายังอยู่เคียงข้างน้องนะ เราจะต้องผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน เขาก็กลับไปวันหนึ่ง พออีกวันญาติเขาก็กลับมาบอกว่าเขาพร้อมที่จะรับการรักษาจากสถานพยาบาล ก็ให้พี่คนที่ใจดีมาพาไปสถานพยาบาล ผลสรุปคือเขาเป็นวัณโรค…(ลปรร.เจ้าหน้าที่เรือนจำ ครั้งที่ 3)