…แต่แม่ต้องสัญญากับเรานะว่าแม่จะมีชีวิตอยู่รอเรา เพราะแม่แปดสิบกว่าแล้ว แม่ก็น้ำตาไหล เราก็บอกยิ้มๆ สัญญาก่อนๆ แม่ก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อรอเรา แต่เราจะติดนิสัยโกหกแม่ว่า อีกนิดเดียวอีกปีเดียว พออีกปีแม่ก็บอกว่าไหนว่าอีกปีเดียว แต่เราก็บอกก็เนี่ยอีกปีเดียว คือโกหกทั้งตัวเองทั้งแม่ นี่แหละค่ะคือสิ่งที่ทำให้ตัวเองอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้…มาอยู่ในนี้ก็เลยคิดว่าปฏิบัติธรรมนี้ เพื่อส่งผลบุญให้แม่มีชีวิตยืนยาวขึ้น เพื่อที่แม่จะอยู่นานๆ พอที่เราจะออกไปตอบแทนบุญคุณแม่ จะยึดตรงนี้เป็นที่เลี้ยงจิตใจตัวเองให้อยู่ได้เลยค่ะ (ลปรร.ผู้ต้องขังหญิงครั้งที่ 2)
การช่วยฟื้นคืนอัตลักษณ์ดังกล่าวอาจกระทำในภายหลังก็ได้ เช่น
วันพ่อนี่แหละ ขอให้พ่ออโหสิให้ เค้าก็ร้องไห้ เราก็ร้องไห้ เราก็ขอโทษพ่อ ต่อจากนี้ก็มีแต่คำว่ารักพ่อ เพราะว่ามีพ่อคนเดียวที่ไม่ทิ้งเราเลย มาเยี่ยมตลอด แล้วขอร้องให้เราเรียนหนังสือให้จบ เพราะว่าแกฝันอยากเห็นเราใส่ชุดปริญญา ตอนนี้เราก็เรียนมสธ.ปีที่ 2 ค่ะ ทุกวันนี้ก็ทำเพื่อพ่อ เพื่อน้องสาว (ลปรร.ผู้ต้องขังหญิงครั้งที่ 2)
ข้อสังเกตที่สำคัญสำหรับข้อความต่างๆ ที่ยกมาข้างต้นคือในที่สุดแล้วเห็นได้ว่าอัตลักษณ์นั้นขึ้นอยู่กับผู้อื่นอยู่มาก ไม่เพียงเท่านั้นลักษณะที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อผู้ต้องขังมีผลกระทบต่อพลังของตัวตนของผู้ต้องขังในอันที่จะรักษาอัตลักษณ์เพื่อคงความหมายแห่งชีวิตไว้ได้