ตอนนั้นมีลูกสาวโดนด้วย เพราะว่าตอนนั้นลูกสาวมานอนด้วย จากกรุงเทพ เราพยายามทำเรื่องเอาลูกสาวออกไป…ทำเรื่องให้ลูก เพราะว่าลูกไม่เกี่ยวจริงๆ จนเค้าก็ยกฟ้องไป ตัดสินแต่เราคนเดียว ก็ดีใจให้ลูกหลุดไป…พอลูกออกไปก็ร้องไห้ บอกแม่อย่าทำอะไรนะ เคยคิดไว้แล้วว่าจะไม่อยู่ จะผูกคอตาย แต่สงสารลูกมาก ลูกก็กอดร้องไห้ นายหญิงที่เรือนจำเล็กก็รู้จักกัน เค้าก็พยายามปลอบ บอกว่าอย่าทำอะไรนะ คิดถึงลูกบ้าง แต่เราแอบผ้าไว้แล้ว ไว้ผูกคอตาย พอคืนนั้นลูกสาวก็ไป แล้วเค้าก็ไม่มีใครนอนเลย ดูเฝ้าเราทั้งคืน…(ลปรร.ผู้ต้องขังหญิงครั้งที่ 1)
ข้อความที่ยกมาเป็นของผู้ต้องขังที่มีอัตลักษณ์ในฐานะแม่ ประสบการณ์การตกเป็นผู้ต้องขังของเธอทำให้สูญเสียอัตลักษณ์แบบซ้อนทับ นอกจากจะเผชิญความสูญเสียเช่นคนอื่นๆ ที่ตกเป็นผู้ต้องขังแล้ว อัตลักษณ์ความเป็นแม่ยังถูกกระทบอย่างชัดเจน เนื่องจากทำให้ลูกต้องโชคร้ายตกเป็นผู้ต้องขังด้วย ความดิ้นรนสุดท้ายเป็นการดิ้นรนเพื่อทำหน้าที่ตามอัตลักษณ์ดังกล่าว นั่นคือ ผู้ต้องขังรายนี้ได้พยายามช่วยให้ลูกได้พ้นจากที่ต้องขังเพียงเพื่อที่ตนเองจะกลับมาสู่ภาวะแห่งการสูญสิ้นทั้งหมด ซึ่งนำสู่ความตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายในที่สุด
ข้อความที่ยกมาสะท้อนความตึงแย้ง (tension) ของการสูญเสียอัตลักษณ์อันเนื่องจากการตกเป็นผู้ต้องขังได้เป็นอย่างดี ในด้านหนึ่ง การตกเป็นผู้ต้องขังคือความสูญสิ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง อัตลักษณ์บางส่วนยังคงหลงเหลืออยู่ ผู้ต้องขังต้องเผชิญกับแรงดึงของทั้งสองด้าน ในกรณีของข้อความที่
ยกมานี้ ผู้ต้องขังพ่ายแพ้ต่อแรงดึงแห่งความสูญสิ้น