สภาพของโรงเรียนเลวร้ายถึงที่สุด และพวกเธอได้พยายามบอกกล่าวหรือขอความช่วยเหลือเพื่อลูกๆของเธอจนอ่อนใจแล้ว
แม็กกี กิลเลนฮาล รับบท เจมี่ ฟิตซ์แพทริก คุณแม่สาวสวยที่ต้องทำงานเป็นพนักงานขายรถในเวลากลางวันและบาร์เทนเดอร์ในเวลากลางคืน เธอมีลูกสาวที่มีปัญหาด้านการอ่านและได้พยายามขอความช่วยเหลือจากครูที่โรงเรียนประถมอดัมส์ที่ลูกสาวเธอเรียนอยู่ให้กรุณาใส่ใจและตั้งใจช่วยลูกของเธอเป็นพิเศษ แต่ครูซึ่งมีท่าทีสอนหนังสือซังกะตายและอารมณ์เสียเกือบตลอดเวลาไม่ใส่ใจอีกทั้งปฏิเสธที่จะสอนพิเศษในตอนเย็นโดยอ้างกฎระเบียบของสหภาพครู
วิโอลา เดวีส์ รับบท โนน่า อัลเบิร์ท คุณแม่ผิวสีที่แยกทางกับสามีนักธุรกิจ เธอรับผิดชอบดูแลลูกชายที่มีปัญหาการเรียนจนเป็นเด็กเอ๋อประจำห้อง ที่จริงแล้วเธอเป็นครูสอนที่โรงเรียนประถมอดัมส์แต่เบื่อหน่ายกฎระเบียบของสหภาพฯ และผู้บริหารโรงเรียนรวมทั้งครูหลายคนที่ไม่ใส่ใจนักเรียนเท่าที่ควร
ร้อยละ 2 เท่านั้นของนักเรียนจากโรงเรียนประถมอดัมส์ที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ ขณะที่โรงเรียนประถมอีกแห่งหนึ่งร้อยละ 2 เท่านั้นที่เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนส่วนใหญ่ของโรงเรียนประถมอดัมส์อ่านหนังสือไม่ได้
ทั้งหมดที่เล่ามาเกิดในสหรัฐอเมริกา อย่าเข้าใจผิดว่ากำลังเล่าเรื่องประเทศไทย
หนังแสดงให้เห็นถึงความพยายามของคุณแม่ทั้งสองที่หว่านล้อมผู้ปกครองคนอื่นและครูจำนวนหนึ่งให้ร่วมลงชื่อได้มากพอที่จะขอใช้กฎหมายที่เรียกว่า Parent Trigger Law ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2010 กฎหมายฉบับนี้เปิดช่องให้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปมีส่วนในการบริหารโรงเรียนได้ถึงระดับปลดครูหรือผู้อำนวยการโรงเรียนออกได้
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และสมควรเกิดในไทยได้เสียที
หนังผลิตโดย Walden Media และทเวนตี้เซ็นจูรี่ฟ๊อกซ์ วอลเดนมีเดียคือผู้ผลิตสารคดีวิพากษ์ระบบการศึกษาสหรัฐอเมริกาชิ้นเยี่ยมร่วมกับพาราเมาท์พิคเจอร์ และ Participant Media เรื่อง Waiting For Superman ซึ่งกำลังถูกอ้างอิงโดยนักการศึกษาทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย
ข้อความสำคัญคือเรามีคุกมากกว่าโรงเรียน และเราจะมีคุกมากขึ้นเรื่อยๆหากเราไม่ปฏิรูปการศึกษาด้วยการเปลี่ยนแปลงโรงเรียน เพราะสถิติชี้ว่านักเรียนส่วนใหญ่จากโรงเรียนไร้คุณภาพมีอนาคตคือเข้าคุก
เป็นหนังที่ดูสนุกพอสมควรแต่มีคุณค่าสมควรดูอย่างมาก หนังไม่ประสบความสำเร็จด้วยบทภาพยนตร์ที่ดูเหมือนจะขาดๆเกินๆทำให้ไม่เข้าใจหลายตอนและไม่เห็นกระบวนการทั้งหมดอย่างชัดเจน จนกระทั่งบางครั้งดูเหมือนการต่อสู้ของคุณแม่ทั้งสองออกจะจงใจบีบน้ำตามากเกินไป
แม็กกี้ กิลเลนฮาล คือนักแสดงหญิงที่เพิ่งผ่านสายตาไปในหนัง Hysteria และ The Dark Knight มาครั้งนี้เธอเปลี่ยนบุคลิกไปเป็นคนละคน จากสาวมั่นกลายเป็นคุณแม่คนสวยก๋ากั่นชวนมอง วิโอลา เดวีส์เป็นนักแสดงผิวสีที่กำลังพุ่งแรง หลายคนควรจะจำเธอได้จากบทบาทที่ยอดเยี่ยมในหนังยอดเยี่ยม The Help หนังได้นักแสดงหญิงมีฝีมือ ฮอลลี ฮันเตอร์ กลับมารับบทผู้แทนจากสหภาพครูหลังจากที่เธอห่างหายจากจอภาพยนตร์ไปนานถึง 7 ปี
นอกจากหนังไม่ประสบความสำเร็จแล้วยังถูกต่อว่าจากนักวิจารณ์จำนวนหนึ่งว่าออกจะเข้าข้างพ่อแม่และเป็นศัตรูกับสหภาพครูมากเกินไป ทั้งที่สหภาพครูได้ทำอะไรหลายอย่างดีๆไว้มากมาย
ฟังดูคล้ายประเทศไทยอีกแล้ว
แน่นอนว่าการต่อสู้ของคุณแม่สองคนกับสหภาพครูมิใช่ของเล่นๆ พวกเธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคของระบบราชการสหรัฐฯ มากมายในการหาแนวร่วมและต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ กฎหมายนี้เปิดช่องให้ผู้ปกครองสามารถเอาผู้บริหารโรงเรียนหรือครูออกได้ นั่นทำให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูต้องรับผิดรับชอบ(accountability)ต่อสังคมอย่างแท้จริง
เทียบกับเวลานี้ที่ผู้บริหารโรงเรียนไม่เคยต้องรับผิดอะไรแม้ว่าผลการเรียนของนักเรียนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในการวัดผลระดับนานาชาติทุกสนามก็ตาม