สื่อการเรียนรู้ “The Graduation”

ที่มาเนื้อหาภาพยนตร์จาก Documentary Club

“โรงเรียนตอบตกลงให้คุณไปทำหนังเรื่องนี้ง่ายมั้ย”

แคลร์ ซีมง : “ไม่ง่ายเลย มีผู้ใหญ่หลายคน-ไม่ใช่พวกครู แต่พวกที่มาจากวงการหนังน่ะ-ที่ไม่อยากโผล่ในหนังเรื่องนี้ ซึ่งฉันว่าเป็นอะไรที่แย่เพราะโรงเรียนจ่ายเงินจ้างพวกเขามาเป็นกรรมการเลือกเด็กนะ ฉันเลยอธิบายให้ทุกคนฟังว่า ถ้าฉากของคุณยังเหลืออยู่ในหนังฉบับตัดต่อร่างสุดท้าย ฉันก็จะเอาฉากนั้นให้คุณดูเพื่อตัดสินใจว่าจะยอมปรากฏในหนังหรือเปล่า

ครูบางคนบอกว่า ‘ถ้าหนังฉายออกไป เราคงถูกคนดูตัดสินว่าอย่างนั้นอย่างนี้แน่ๆ’ ฉันจึงตอบว่า ‘ถ้าคุณถูกตัดสินจากสิ่งที่เห็นในหนัง ก็แปลว่าฉันทำหนังออกมาไม่ดี เพราะหนังไม่ใช่เรื่องของการตัดสินพิพากษาตัวละคร หนังคือการทำให้คนดูได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นต่างหาก’

ฉันคิดว่าหนังสารคดีที่เกี่ยวกับสถาบันต่างๆ ทางสังคมนั้นน่าสนใจมากและทำยากกว่าสารคดีเล่าเรื่องผู้คนตกทุกข์ได้ยากเยอะเลย เพราะหนังว่าด้วยสถาบันต้องพยายามทำให้คนทุกคนเท่าๆ กัน ต้องนำเสนอพวกเขาในระดับที่เสมอภาคกัน พวกเขาจะต้องถูกนำเสนอในฐานะมนุษย์ ไม่ใช่ดารา มันจึงยากมาก แต่ก็ท้าทายและน่าทำมากค่ะ”

======================

Documentary Club ภูมิใจเสนอ “The Graduation” สารคดีฝรั่งเศสฝีมือผู้กำกับหญิงขาเก๋า แคลร์ ซีมง ผู้พาเราไปเกาะติดการสอบเข้า “ลา เฟมีส” ตั้งแต่วันสมัครไปยันวันประกาศผล แอบดูความเกร็งของคนสมัครและวิวาทะสุดเข้มข้นของบรรดาคณาจารย์ ในการพิพากษาว่าใครบ้างจะเป็นผู้ “ได้รับเลือก” และ “ถูกปฏิเสธ”!

The Graduation – clip

"เราจะไม่รับเค้าเข้าเรียนแค่เพราะเค้าดูบ้าๆ บอๆ ไม่ได้นะ ลองคิดถึงโครเนนเบิร์กตอนอายุ 18 สิ ก็คงจะดูบ้าไม่น้อยหน้ากันหรอก หรือต่อให้เป็นเดรเยอร์ มาเจอสอบปากเปล่าแบบนี้ก็ขำไม่ออกเหมือนกันแหละน่ะ"- อาจารย์เถียงกันขณะตัดสินใจว่าจะรับผู้สมัคร "ท่าทางบ้าๆ บอๆ แต่อาจจะเป็นอัจฉริยะด้านการกำกับหนังคล้ายๆ ไอ้ผู้กำกับหนังเรื่อง Drive คนนั้นก็เป็นได้" เข้าเป็นนักศึกษาใหม่ของ La Femis สถาบันภาพยนตร์ที่โด่งดังที่สุดแห่งปารีสดีหรือไม่* * * * * * * * * * * * *Doc Club ภูมิใจเสนอ "The Graduation" สารคดีฝรั่งเศสที่เราชอบมากกกกก ตามติดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยภาพยนตร์ของเด็กฝรั่งเศส สู่สถาบันที่ซึ่ง "เกรด" ไม่ใช่เกณฑ์ตัดสิน …ตั้งแต่พฤหัสบดี 2 พ.ย. นี้ ที่ Alliance Francaise, House RCA และ Doc Club Theater (Warehouse 30) คลิกดูรายละเอียดวันและเวลาฉายได้ที่ : https://www.facebook.com/DocumentaryClubTH/photos/a.606254922819004.1073741826.606250862819410/1362890070488815/?type=3&theater

โพสต์โดย Documentary Club บน 20 ตุลาคม 2017

 

หลังจากที่ได้อ่านเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ไปแล้ว สิ่งที่ผมเห็นจากการนั่งชม 2 ชั่วโมงกว่าๆคือ “ความเป็นคน” กับ “ความเป็นครู”

.

“ความเป็นคน”

โรงเรียนภาพยนตร์ที่ดีเป็นลำดับต้นๆของประเทศ หนังเรื่องนี้เปิดด้วยความเป็นคนที่ต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองภาพการสอบข้อเขียนโดยมีผู้หวังเป็นนักเรียนนับพับปรากฏขึ้นเป็นฉากเปิดตัว หลังจากนั้นเราจะเห็นความขวนขวาย เพื่อที่จะอยู่ในกลุ่มผู้ได้เข้าศึกษา นักศึกษาบางคนเดิมพันด้วยชีวิต บางคนเดิมพันด้วยความเชื่อ จนเราไม่ต้องสงสัยว่า ความกระหายใคร่รู้เมื่อเขาอยู่ในห้องเรียนจะขาดพร่องแต่อย่างใด

คำถาม “ทำไมถึงอยากมีคนเป็นนักเรียนที่นี้” “ทำอย่างไรนักเรียนของเราถึงจะเป็นผู้กระหายใคร่รู้

คำตอบอาจจะอยู่ในอีกความหนึ่ง “ความเป็นครู”

นอกจากภาพการกระตือรือล้นของผู้ที่อยากจะมาเรียนที่นี้แล้ว สิ่งที่คุณจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้เป็นจำนวนมากคือ ความเป็นครู อย่างที่หลายๆคนบอกว่ากรรมการผู้เข้าสอบคัดเลือกหลายๆคน ไม่เกี่ยวข้องกับอาชีพครูเลยด้วยซ้ำ บางคนเป็นผู้จัดการโรงหนัง บางคนเป็นผู้กำกับภาพ แต่เราได้เห็นความเป็นครูอย่างเต็มเปี่ยมในหนังเรื่องนี้ ผมเห็นการปกป้องความฝันให้คนที่เขาไม่รู้จัก เราเห็นความพยายามผลักดันคนอีกคนให้ดีขึ้น เราเห็นความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือกระทั่งการถก เพื่อให้ได้เห็นแก่นแท้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะเห็นอีกฝ่ายแสดงความเป็นคน และอีกฝ่ายแสดงความเป็นครู

แค่นี้ก็น่าจะทำให้โรงเรียนหนังเหล่านี้ แสดงเหตุผลว่าทำไมคนอยากเรียน

ทั้งๆที่ เท่าที่เราดูมาทั้งหมด ไม่ได้เห็นเทคโนโลยีในการถ่ายทำที่ล้ำหน้าใดๆ แต่ที่ทันสมัยที่สุด คงเป็นหัวใจของคนที่นี้