มาทำความรู้จักกับ Kiddle

แปลจาก : http://www.scarymommy.com/kiddle-search-engine-launched-by-google-is-for-kids/?utm_medium=partner&utm_source=simpleasthat

เครื่องมือค้นหาสำหรับเด็ก หมดปัญหาการค้นเจอวีดีโอไม่พึ่งประสงค์โดยไม่ได้ตั้งใจ

“Kiddle” ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้จะช่วยให้เด็กๆ ค้นหาสิ่งต่างๆ ทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย

หากคุณเคยดูประวัติการค้นหาในแท็บเล็ตของลูกๆ แล้วพบคำว่า “หน้าอก” ตอนนี้เรามีข่าวดีสำหรับคุณ เพราะเรามีเครื่องมือค้นหาที่เป็นมิตรกับเด็ก ซึ่งช่วยลดการค้นเจอโชว์ของไมลี ไซรัสในงาน VMA 2013 ได้

Google ไม่ใช่เจ้าของ Kiddle แต่เป็นผู้ให้การสนับสนุน เจ้า Kiddle นี้มีหน้าตาคล้าย Google มาก แต่เต็มไปด้วยรูปการ์ตูนน่ารักๆ ที่ดูสนุกสนาน พร้อมกับหุ่นยนต์และอวกาศใกล้ๆ แถบค้นหา แทนที่พื้นหลังสีขาว

ตามที่ Tech Times ได้อธิบายไว้ Kiddle จะแสดงผลการค้นหาที่ผ่านการคัดกรองจากมือบรรณาธิการเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหานั้นเป็นมิตรกับเด็กจริงๆ ผลการค้นหา 1-3 ครั้งแรกจะได้รับการจัดโดยบรรณาธิการ ผลการค้นหาครั้งที่ 1 จะเป็นเว็บไซต์ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กหรือเว็บไซต์ที่เขียนขึ้นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ครั้งที่ 2 จะเป็นเว็บไซต์ที่ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ที่เด็กๆ จะเข้าใจได้ ส่วนครั้งที่ 3 จะเป็นเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ ที่เด็กอาจจะเข้าใจได้ยากขึ้น แต่ยังคงเป็นเว็บไซต์ที่ถูกกรองแล้วว่าปลอดภัยโดย Google

ในส่วน “about” (เกี่ยวกับ) ของ Kiddle นั้น ได้ให้สัญญาว่าบุตรหลานของคุณจะปลอดภัยในการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ประวัติการล็อคอินจะถูกลบออกทุก 24 ชั่วโมงและ Kiddle จะไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ เราลองทดสอบ โดยการค้นหาคำที่ไม่พึงประสงค์บางคำที่เด็กๆ อาจพยายามค้นหาใน Kiddle และพบว่า Kiddle เป็นเครื่องมือคัดกรองชั้นเยี่ยม

การค้นหาคำว่า “ก้น” และ “จู๋” จะทำให้ตัวการ์ตูนหุ่นยนต์โกรธและไล่ให้กลับไปที่แถบค้นหาใหม่อีกครั้ง สำหรับพ่อแม่ของเด็กที่มักค้นหาคำว่า “เซ็กส์” และ “ขี้” เป็นประจำ นี่เป็นสิ่งที่น่ายินดี เด็กๆ ชอบเล่น Google และ Kiddle ก็เป็นทางเลือกที่น่าอัศจรรย์และปลอดภัย หวังว่าเมื่อพวกเขาเลยจุดตื่นเต้นกับการพิมพ์คำหยาบลงในแถบค้นหา พวกเขาจะเริ่มค้นหาเรื่องที่พวกเขาสนใจจริงๆ และเมื่อพวกเขาทำเช่นนั้น  Kiddle ก็คอยสนับสนุนพวกเขาอยู่

สมมติว่าบุตรหลานของคุณอยากรู้เรื่องจัสติน บีเบอร์ แต่คุณไม่ต้องการให้พวกเขาเจอข้อมูลเวลาบีเบอร์โมโหจนเตะถังขยะ หรือภาพตูดของบีเบอร์ที่ถูกโพสต์ไว้ใน Instagram การค้นหาของ Kiddle ก็จะแสดงเฉพาะชีวประวัติของบีเบอร์ที่เหมาะสม

ในยุคดิจิทัลนี้ เราต้องยอมรับว่าเด็กๆ ของเราจะต้องใช้คอมพิวเตอร์มากกว่าในสมัยก่อน พวกเขาต้องการอินเทอร์เน็ตเพื่อทำวิจัยของโรงเรียนและสื่อสารกับเพื่อนหรือครูของพวกเขา เราจะไว้วางใจพวกเขาได้ก็ต่อเมื่อไม่ได้เปิดโอกาส เพราะถึงแม้พ่อแม่จะควบคุมดูแลลูกได้ดีมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดลูกๆ จากสิ่งที่ไม่ควรเจอในอินเตอร์เน็ตได้ แต่ขอบคุณที่เทคโนโลยีนั้นพัฒนาอยู่เรื่อยๆ

และดูเหมือนว่า Kiddle จะเป็นคำตอบที่ช่วยให้เด็กมีอิสระที่จะเข้าร่วมโครงการของโรงเรียนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะไปเจอวิดีโอ “Girls Gone Wild” (สาวๆ ใจแตก) แน่นอนว่าเราสามารถปกป้องพวกเขาได้ เมื่อบริษัทที่มีเทคโนโลยีทันสมัยรับรู้ปัญหาและยื่นมือเข้ามาช่วยปกป้องลูกๆ ของเรา